“ไซยาไนด์”

                เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงจะได้ยินจากข่าวอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วยนะครับ บอกได้เลยครับว่าเป็นข่าวที่สะเทือนจิตใจใครหลายๆ ท่านพอสมควรเลย และสำหรับความอันตรายของยาชื่อนี้ รวมไปถึงรูปแบบของยา และหากสัมผัสควรรับมืออย่างไรมาดูกันเลยครับ



ไซยาไนด์ สารเคมีอันตราย

            สำหรับ ไซยาไนด์ เป็นสารเคมีที่อันตรายที่ออกฤทธิ์ได้อย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าสู่ร่างกายไปแล้วจะทำการยับยั้งการทำงานของเซลล์จนอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ ไซยาไนด์เป็นสารเคมีที่มีพันธะคาร์บอนไนโตรเจน (CN) ที่มักนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษ สิ่งทอ และพลาสติก สามารถปนเปื้อนได้ทั้งในอากาศ ดิน น้ำ รวมถึงอาหาร สารเคมีตัวนี้สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยพบในพืชบางชนิดอย่างเช่น อัลมอนด์ แอปเปิล และยังเกิดได้จากกระบวนการเผาผลาญภายในร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตามสารเคมีตัวนี้จะมีปริมาณที่พบเล็กน้อยในพืชและกระบวนการเผาผลาญโดยไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตนะครับ

 

 

รูปแบบไหนอันตรายต่อชีวิต?

   สารเคมีชนิดนี้มีรูปแบบที่หลากหลายทั้งในรูปแบบของแข็ง ของเหลว และแก๊ส โดยในแต่ละชนิดนั้นจะมีแหล่งที่มารวมถึงคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปดังนี้


 

  • Sodium cyanide (NaCN)

   รูปแบบนี้จะเป็นของแข็งที่มีสีขาว อาจอยู่ในรูปแบบที่ผลึก แท่ง หรือผงครับ โดยพบได้ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ใช้ในการเคลือบเงาหรือเคลือบสีเหล็ก และเป็นส่วนประกอบในยาฆ่าแมลง สามารถเข้าสู่ร่างกายจากการสัมผัสบริเวณปากแผล การสูดดม หากรับประทานเข้าไปอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลยครับ

 

  • Potassium cyanide (KCN)

   มีลักษณะเป็นก้อนผลึกหรือผงสีขาว เมื่อเป็นของเหลวจะใสแบบไม่มีสี กลิ่นจะคล้ายกับอัลมอนด์ มักจะนำมาใช้ในการสกัดแร่อย่างเช่น ทองหรือเงิน และยังพบได้ในยาฆ่าแมลง เมื่อสารเคมีรูปแบบนี้จะเจอกับความร้อนจะทำให้เกิดควันพิษ หากได้เข้าสู่ร่างกายแล้วอาจไปรบกวนการทำงานของอวัยวะภายในจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

 

  • Hydrogen cyanide (HCN)

   มักมาในรูปแบบของเหลวหรือแก๊สที่ไม่มีสี พบในควันจากท่อไอเสีย ควันบุหรี่ และควันจากโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อมีการสูดดมเข้าไปอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาทส่วนกลาง รวมไปถึงยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองตามผิวหนัง และดวงตาครับ

 

  • Cyanogen chloride (CNCI)

   รูปแบบนี้จะมีลักษณะเป็นของเหลวหรือแก๊สที่ไม่มีสี แต่มีกลิ่นฉุน และเป็นพิษอย่างรุนแรงเมื่อเผาไหม้ ทำให้เกิดการระคายเคืองเมื่อมีการสูดดมเข้าไปนั่นเองครับ

 


ความอันตรายของ ไซยาไนด์

   เมื่อสารเคมีตัวนี้เข้าไปสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดอาการดังนี้

  • ระคายเคืองบริเวณที่สัมผัสอย่างผิวหนังหรือดวงตา
  • ร่างกายอ่อนแรง
  • เวียนศีรษะ
  • คลื่นไส้
  • หายใจติดขัด
  • หมดสติ
  • หัวใจหยุดเต้น


 โดยความรุนแรงของอาการเหล่านี้ขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคมีว่ามีปริมาณ และระยะเวลาในการได้รับเท่าไหร่


 

ผลกระทบจากการรับสารเคมี แบ่งได้ 2 ประเภท

ภาวะเป็นพิษแบบเฉียบพลัน

   เป็นอาการที่พบได้ยากมากๆ โดยเกิดขึ้นได้ทันที สำหรับอาการอย่างเช่น หายใจติดขัด เลือดไหลเวียนผิดปกติ ภาวะหัวใจหยุดเต้น สมองบวม ชัก และหมดสติ เป็นต้น

 

 

ภาวะเป็นพิษแบบเรื้อรัง

   เกิดจากการได้รับในปริมาณที่เล็กน้อยแต่ได้รับอย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน อาการเบื้องต้นอย่างเช่น ปวดศีรษะ ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน มีผื่นแดง นอกจากนี้ยังมีอาการที่ตามมาอีกคือ รูม่านตาขยาย ตัวเย็น อ่อนแรง หายใจช้า เป็นต้น หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้หัวใจหยุดเต้นหรือเต้นผิดปกติได้ ผิวหนังบริเวณใบหน้า และแขนขากลายเป็นสีม่วง โคม่า และเสียชีวิตในที่สุดครับ

รับมืออย่างไรหากสัมผัส

   สารเคมีชนิดนี้เป็นสารที่อันตราย หากสัมผัสกับสารเคมีนี้จะต้องรีบทำการลดหรือหาวิธีแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ปริมาณสารลดลงให้ได้มากที่สุด สำหรับวิธีการรับมือมีดังนี้

  • การสัมผัสทางผิวหนัง ถ้าหากร่างกายได้สัมผัสกับสารเคมีตัวนี้ ให้ทำการถอดเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนออกด้วยการใช้กรรไกรตัดเสื้อออกเป็นชิ้นๆ เลยนะครับ และนำออกจากลำตัว โดยเสื้อผ้าที่มีการปนเปื้อนนั้นจะต้องไม่โดนผิวหนังเราเพิ่มเติมหรือไปสัมผัสผิวหนังในส่วนอื่นๆ อย่าง ศีรษะ และไม่ควรให้ผู้อื่นสัมผัสร่างกายหรือเสื้อผ้าของเราโดยตรง เพราะอาจทำให้คนๆ นั้นได้รับสารเคมีตัวนี้ไปด้วย และหลังจากที่นำเสื้อผ้าออกไปแล้วให้ทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำและสบู่ เพื่อเป็นการลดปริมาณสารเคมี แล้วจึงรีบไปโรงพยาบาลนะครับ
  • การสูดดมและรับประทาน หากมีการสูดดมอากาศที่มีสารเคมีตัวนี้ปนเปื้อนอยู่ ควรนำตัวเองออกจากพื้นที่บริเวณนั้นๆ โดยเร็ว แต่ถ้าหากไม่สามารถออกมาจากสถานที่นั้นได้ให้ทำการก้มต่ำลงบนพื้น ในกรณีที่หายใจลำบากหรือหยุดหายใจ ต้องทำ CPR เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น และรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาลครับ

 

ข้อห้าม : ห้ามใช้วิธีเป่าปากหรือวิธีผายปอด เพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับสารเคมี

 

 

  • การสัมผัสทางดวงตา เมื่อสัมผัสโดนดวงตาให้รีบถอดแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ออก หลังจากนั้นให้ใช้น้ำสะอาดล้างตาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยเป็นเวลา 10 นาที และนำส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรับการตรวจ

หลีกเลี่ยงการสัมผัส?

   การหลีกเลี่ยงหรือการลดโอกาสที่จะได้รับสารเคมีตัวนี้ มีดังนี้

  • งดสูบบุหรี่
  • เก็บภาชนะที่บรรจุสารเคมีภายในบ้านให้มิดชิดและเหมาะสม
  • ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมี ควรใช้ภาชนะรองรับสารเคมีที่มีขนาดเล็กที่สุด อาจจะช่วยให้ได้รับสารเคมีน้อยลง รวมถึงลดโอกาสที่จะสัมผัส และการสูดดมลดลงอีกด้วย
  • ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมี ไม่ควรนำเสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ที่อาจจะมีสารปนเปื้อนออกนอกสถานที่ทำงานหรือการนำกลับบ้าน
  • ติดตั้งเครื่องดับจับควัน เนื่องจากสารเคมีอาจมาในรูปแบบของควันได้ครับ
  • สวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้งเมื่อต้องทำงานกับสารเคมีหรือต้องเข้าไปในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี
  • ผู้ที่มีความเสี่ยงได้รับสารพิษสูงอย่างเช่น เกษตรกร ช่างเหล็ก ช่างทอง พลังงานที่อยู่ในกระบวนการผลิตกระดาษ สิ่งทอ ยาง และพลาสติก ผู้ที่ทำงานกำจัดแมลง เป็นต้น แนะนำให้ไปพบแพทย์และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำด้วยนะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : unitedhonda
cr. : https://unitedhonda.com/